หน้าหลัก
แหล่งฝึก
ดาวน์โหลดเอกสาร
คำถามที่พบบ่อย
ลิงค์อื่นๆ
เข้าสู่ระบบ
ชื่อผู้ใช้
รหัส
เครือข่าย
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยศิลปากร
มหาวิทยาลัยนเรศวร มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
มหาวิทยาลัยรังสิต มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ
มหาวิทยาลัยสยาม มหาวิทยาลัยพายัพ
มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ มหาวิทยาลัยอีสเทอร์นเอเชีย
มหาวิทยาลัยพะเยา มหาวิทยาลัยบูรพา
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  
ความเป็นมา
         เนื่องด้วยหลักสูตรเภสัชศาสตรบัณฑิต คณะเภสัชศาสตร์ทุกสถาบันได้มีการปรับปรุงจากหลักสูตร ๕ ปี ไปเป็นหลักสูตร ๖ ปี เพื่อให้สอดคล้องกับประกาศสภาเภสัชกรรม ที่ ๑๒/๒๕๕๑  เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการในการรับรองสถาบันผลิตบัณฑิตโดยมีการเห็นชอบหลักสูตรเภสัชศาสตร์ดังกล่าว ตั้งแต่ปีการศึกษา ๒๕๕๒ รวมไปถึงประกาศสภาเภสัชกรรมที่ ๒๖/๒๕๕๔ เรื่องเกณฑ์มาตรฐานแหล่งฝึกปฏิบัติงานวิชาชีพที่กำหนดกรอบแนวทางการฝึกปฏิบัติงานของนิสิตนักศึกษาในสถานที่ที่มีการประกอบวิชาชีพแขนงต่างๆ หรือสถานที่อื่นๆ ที่มีกิจกรรมปฏิบัติที่เกี่ยวข้องและสนับสนุนการประกอบวิชาชีพโดยตรงโดยเป็นการฝึกปฏิบัติงานทั่วไปภาคพื้นฐาน จำนวนชั่วโมงปฏิบัติการไม่น้อยกว่า ๔๐๐ ชั่วโมง  และการฝึกปฏิบัติการงานวิชาชีพภาคสาขาหลัก จำนวนชั่วโมงปฏิบัติการไม่น้อยกว่า ๑,๖๐๐ ชั่วโมง ซึ่งในส่วนวิทยาศาสตร์เภสัชกรรม หรือวิทยาการทางเภสัชศาสตร์ (ซึ่งภายหลังได้มีการปรับชื่อเป็น “เภสัชอุตสาหการ” ตามประกาศสภาเภสัชกรรมที่ ๑๓/๒๕๕๖) เป็นหนึ่งในวิชาขีพภาคสาขาหลักที่ต้องมีการดำเนินการในส่วนต่างๆ เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางดังกล่าว
คณะอนุกรรมการอำนวยการศูนย์พัฒนาการฝึกปฏิบัติงานวิชาชีพสาขา Pharmaceutical Sciences
         เพื่อให้การฝึกปฏิบัติงานสาขาวิทยาศาสตร์เภสัชกรรมตามหลักสูตรใหม่เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ศูนย์ประสานงานการศึกษาเภสัชศาสตร์แห่งประเทศไทย (ศ.ศ.ภ.ท.) ซึ่งเป็นที่ประชุมคณบดีคณะเภสัชศาสตร์ ทุกสถาบันทั่วประเทศ จึงได้แต่งตั้งและมอบหมายให้ คณะอนุกรรมการอำนวยการศูนย์พัฒนาการฝึกปฏิบัติงานวิชาชีพสาขา Pharmaceutical Sciences เป็นผู้บริหารจัดการเกี่ยวกับการฝึกปฏิบัติงานในสายดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ ๘ กรกฎาคม ๒๕๕๓ มีวาระ ๒ ปี (๒๕๕๓-๒๕๕๕) ซึ่งได้มติและข้อสรุปที่เป็นประโยชน์ในด้านต่างๆ เช่น กำหนดแนวทางปรับปรุงหลักสูตรของแต่ละสถาบันให้มีความสอดคล้อง เป็นไปในทิศทางเดียวกันมากขึ้น กำหนดผลัด (rotation) การฝึกงานของนิสิต/นักศึกษาทุกสถาบันให้ตรงกัน กำหนดเกณฑ์และเนื้อหาที่จำเป็นสำหรับการฝึกงาน กำหนดวิธีการควบคุมการฝึกงานและการนิเทศงาน เป็นต้น
         การดำเนินงานของคณะอนุกรรมการชุดดังกล่าวได้สิ้นสุดลงในปี ๒๕๕๕ ดังนั้นเพื่อให้มีการดำเนินการต่อเนื่อง ทาง ศ.ศ.ภ.ท จึงได้ดำเนินการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการการฝึกปฏิบัติงานวิชาชีพสาขา Pharmaceutical Sciences (คำสั่งแต่งตั้งที่ ๐๒/๒๕๕๖ และ ๐๔/๒๕๕๖) โดยมีวาระตั้งแต่ปี ๒๕๕๖-๒๕๕๘ โดยมีตัวแทนจากมหาวิทยาลัยต่างๆจำนวน ๑๗ แห่ง อันได้แก่ มหาวิทยาลัยศิลปากร มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยรังสิต มหาวิทยาลัยนเรศวร มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม มหาวิทยาลัยสยาม มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ มหาวิทยาลัยพายัพ มหาวิทยาลัยอิสเทิร์นเอเซีย และมหาวิทยาลัยพะเยา โดยมีภาระหน้าที่หลักที่ได้รับมอบหมายดังนี้
  • ประสานงานการฝึกปฏิบัติงานวิชาชีพรวมถึงการรับข้อมูลจากแหล่งฝึกเพื่อใช้ประโยชน์ในการพัฒนาแหล่งฝึก
  • จัดระบบการฝึก การพัฒนาคู่มือ การนิเทศและการประเมินผลการฝึกปฏิบัติงานให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน
  • สร้างและพัฒนาระบบสารสนเทศของการฝึกปฏิบัติงานวิชาชีพ
ปัจจัยเสริมและสนับสนุน
         นอกจากนี้แล้วจากการที่กลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนได้จัดตั้งเขตการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของอาเซียนในตลาดโลกและขยายปริมาณการค้าในอาเซียนด้วยกันโดยวิธีการลดภาษีศุลกากรและการยกเลิกมาตรการหรืออุปสรรคที่มิใช่ภาษีสำหรับการค้าภายในภูมิภาค ภายใต้ข้อตกลงและแผนการดำเนินงานของ AFTA ผลิตภัณฑ์ยาเป็นสินค้าสาขาสุขภาพ ซึ่งกลุ่มประเทศสมาชิกต้องลดภาษีนำเข้าให้เหลือร้อยละศูนย์ ภายในปี พ.ศ. ๒๕๕๓ สำหรับสมาชิกเดิม (ประเทศไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ มาเลเซีย และบรูไน) และภายในปี พ.ศ. ๒๕๕๘ สำหรับสมาชิกใหม่(เวียดนาม ลาว พม่า และกัมพูชา) และประเทศสมาชิกต้องร่วมกันยกเลิกมาตรการที่เป็นอุปสรรคทางการค้าและข้อกีดกันทางด้านเทคนิคต่างๆ ซึ่งการดำเนินการตามนโยบายเหล่านี้ของ AFTA ส่งผลกระทบที่ทำให้อุตสาหกรรมการผลิตยาของประเทศไทยจำเป็นต้องพัฒนามาตรฐานการผลิตให้สูงขึ้น ดังนั้นภายใต้นโยบายการเปิดการค้าเสรีที่ต้องการกำจัดข้อกีดกันด้านเทคนิคออก การที่ประเทศใดจะได้เปรียบหรือเสียเปรียบดุลการค้าจะขึ้นกับความเข้มแข็งของอุตสาหกรรมของประเทศนั้นเป็นหลัก หากประเทศอื่นในอาเซียนมีความเข้มแข็งและมาตรฐานของอุตสาหกรรมยาสูงกว่าประเทศไทย จะเป็นไปได้อย่างมากที่ในอนาคตไทยจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบดุลการค้า ดังนั้นการพัฒนามาตรฐานอุตสาหกรรมยาในประเทศให้สูงขึ้นจึงเป็นเรื่องที่จำเป็นและมีความสำคัญมาก เพื่อความอยู่รอดและเติบโตของอุตสาหกรรม และเพื่อสร้างแนวคิดด้านคุณภาพ และมาตรฐานการผลิตที่ดี ตลอดจนการให้ความสำคัญในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ดีเพื่อคุ้มครองผู้บริโภค ศ.ศ.ภ.ท. จึงเล็งเห็นความสำคัญในการจัดทำโครงการพัฒนาแหล่งฝึกปฏิบัติงานวิชาชีพ ด้าน Pharmaceutical science เพื่อพัฒนาความพร้อมของแหล่งฝึกปฏิบัติงานวิชาชีพ ในการรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community) ภายใต้บริบทของระบบคุณภาพในการผลิตและพัฒนายาและเภสัชภัณฑ์ ร่วมด้วย ซึ่งต่อมาได้รับทุนสนับสนุนเป็นอย่างดีจาก เครือข่ายเภสัชศาสตร์ สำนักงานสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (คภ. สสส.) ในการทำกิจกรรมต่างๆ ข้างต้น
โครงสร้างการฝึกปฏิบัติงานทั่วไปและการฝึกปฏิบัติงานวิชาชีพหลักสูตรเภสัชศาสตรบัณฑิต วิชาชีพสาขา Pharmaceutical Sciences
         กรอบเบื้องต้น เพื่อให้นักศึกษาเภสัชศาสตร์ฝึกงานในส่วนภาคสาขาหลักในแหล่งฝึกที่มุ่งเน้นให้เกิดสมรรถนะทางเภสัชอุตสาหการ เช่น การผลิต การประกันและควบคุมคุณภาพ การวิจัยและพัฒนา และการขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์ โดยกำหนดให้มีการฝึกปฏิบัติงานวิชาชีพที่เป็นสมรรถนะหลัก ได้แก่ การผลิตและการประกันและควบคุมคุณภาพอย่างละ ๑ ผลัด โดยมีแนวทางการจัดกิจกรรมการฝึกปฏิบัติงานในภาพรวมดังแสดงในรูปที่ ๑
โครงสร้างการฝึกปฏิบัติงานทั่วไปและการฝึกปฏิบัติงานวิชาชีพหลักสูตรเภสัชศาสตรบัณฑิต
รูปที่ ๑ โครงสร้างการฝึกปฏิบัติงานทั่วไปและการฝึกปฏิบัติงานวิชาชีพหลักสูตรเภสัชศาสตรบัณฑิต
 
 
พัฒนาและปรับปรุงโดย หน่วยฝึกปฏิบัติงานวิชาชีพ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์ ถนนราชมรรคาใน อ.เมือง จ.นครปฐม 73000 โทร 0-3427-3060
Copyright © 2012 Pharmacy Silpakorn University. All Rights Reserved.
หน่วยเครือข่ายเภสัชสนเทศ "ประชานาถ" คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร